และนี่คือบทเรียนจากกีฬาโป๊กเกอร์ของโป๊กเกอร์เนิร์ดตัวท็อป อย่าง “ท็อปแท็ป ณภัทร”
GGPoker เปิดให้เล่นทัวร์นาเมนต์แบบ แบทเทิล รอยัลของ Dan Bilzerian ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เกม Fortnite แล้ว
เมื่อเกมมาพบกับเกม
ถึงแม้ผมจะอยู่ในวัยกลางคนแล้ว แต่ผมยังแปลกใจว่า ผมยังชอบเล่นเกม Fortnite อยู่เลย ผมคือนักเล่นเกมตัวยงมาทั้งชีวิต และ Overwatch คือความท้าทายแรกของผมในเกมประเภทนี้ แต่ถึงแม้ผมจะซื้อ Fortnite มาเล่นตั้งแต่เดย์วัน ผมก็ไม่เคยเป็นพวกคลั่งเกมแนวแบทเทิลรอยัลเลย จนกระทั่งลูกของผมอยากเล่นกับผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผมก็เล่นไม่เก่ง สร้างอะไรก็ไม่เป็นแถมยังสั่นเวลาเล็งปืน แต่ผมก็เริ่มเล่นได้ดีขึ้น จนกระทั่งรู้สึกว่าโคตรมันส์ ที่ได้เล่นเป็นคู่หูกับลูก ซึ่งตอนนี้ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ได้เข้าร่วมเล่น Fortnite แล้ว เมื่อ GGPoker ได้ออกทัวร์นาเมนต์ในรูปแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม Fortnite (หรือ PUBG หรือ Apex Legends หรือ COD Warzone) ที่เรียกว่า “แบทเทิลรอยัลของ Dan Bilzerian”
ใช่แล้ว นาย Dan Bilzerian ที่เป็น แอมบาสเดอร์ให้กับ GGPoker ที่ไม่ได้รับการตอบรับจากสังคมโป๊กเกอร์ที่ดีเท่าไหร่ รวมถึงผู้เขียนบทความในเว็บนี้ด้วยนั่นแหละ แต่ช่างเขาเถอะ แล้วมาพูดกันถึงทัวร์นาเมนต์แบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกมทัวร์นี้กันดีกว่า
หมอบแล้วชนะให้ไวดีกว่า
แบทเทิลรอยัล คือการเล่นที่มีผู้เล่น 100 คน แบบ Sit-and-GO 3 รอบ พร้อมกับมีค่าหัว ในรอบที่ 1 เป้าหมายคืออยู่รอดให้ได้ครึ่งหนึ่งของผู้เล่นทั้งหมด 50 คนแรก โดยใช้รูปแบบการเล่นแบบ Rush & Cash ที่เป็นการเล่นโป๊กเกอร์แบบ “หมอบเร็ว” ในเวอร์ชั่นของ GGPoker ซึ่งเมื่อผู้เล่นหมอบ หรือเล่นใน hand นั้นจบ จะถูกย้ายไปเล่นโต๊ะอื่นทันที และเมื่อเหลือผู้เล่น 50 คนเกมรอบนี้ก็จะจบลง
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ จะมีเวลาเพียง 15 นาทีในการเล่นรอบที่ 1 ถ้าหมดเวลาเมื่อไหร่แล้วยังมีผู้เล่นเหลือมากกว่า 50 คน ระบบจะคัดเฉพาะผู้เล่นที่มีชิพใน stack มากที่สุด 50 คนแรกไปเล่นต่อ คนที่เหลือเกินกว่า 50 คนแรกจะถูกคัดออก แล้วค่าหัวของพวกเขาจะถูกรวมไปในเงินรางวัลรวม ถ้าชิพเท่ากันจะวัดจากจำนวนค่าหัวที่เก็บมาได้ (เรียกว่า “คิล” ให้เหมือนในเกม) แล้วจึงวัดจากจำนวน hand ที่เล่น
รอบที่ 2 จะเป็นการเล่นแบบ shootout 10 โต๊ะ โต๊ะละ 5 คน ในแต่ละโต๊ะจะเล่นจนเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว โดยจะมีกำหนดเวลาให้ 15 นาทีเช่นเดียวกับในรอบที่ 1 ถ้ามีคนเหลือรอดหลายคนหลังจบ 15 นาทีในแต่ละโต๊ะ ทุกคนที่เหลือในโต๊ะจะถูกบังคับให้ all-in จนกว่าจะเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียวในโต๊ะ
มีเวลาคิดเพียงเสี้ยววินาทีใน final table
รอบที่ 3 จะเป็น final table ที่โต๊ะจะหดเล็กลงมากที่สุด ประกอบไปด้วยผู้เล่น 10 คนที่รอดชีวิตมาจากรอบที่ 2 ใครที่รอดมาจนถึงจุดนี้จะได้เงินรางวัลแล้ว ลำดับการเลือกที่นั่งจะเรียงจากคนที่ชนะการ shootout ในรอบก่อนได้เร็วที่สุด
blind จะเพิ่มขึ้นทุกๆ 3 นาที และผู้เล่นแต่ละคนจะถูกผูกนาฬิกาจับเวลาไว้ 5 นาทีอยู่บนอก ซึ่งแปลว่าแต่ละคนจะมีเวลาในการตัดสินใจเล่นทั้งหมด 5 นาที ตลอดรอบ final table ถ้าใครใช้เวลาจนหมด จะมีเวลาให้ตัดสินใจ เหลือเพียง 5 วินาที ในแต่ละ hand
ใน final table เวลาจะถูกบีบลงจาก 15 นาทีใน 2 รอบแรก เหลือเวลาจากนาฬิกาบนหน้าอก และ blind ที่ปรับเพิ่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดที่ถูกเปรียบเทียบกับ Fortnite ได้มากที่สุด เพราะไม่เพียงแค่เราต้องเล่นโป๊กเกอร์ให้เก่งอย่างเดียว แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้ เราต้องเล่นโป๊กเกอร์ให้เร็วเพื่อแข่งกับเวลา ไม่งั้นจะถูกดูดหายเข้าไปในพายุได้
และที่น่าสนใจคือ ผู้ที่เหลือรอด 2 คนสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์แบบแบทเทิลรอยัลนี้ จะได้รับเงินรางวัลเท่ากัน หรือเกือบจะเท่ากันที่ประมาณ 21.13% และ 21.12% ของเงินรางวัลรวม ตามลำดับ โดยที่อันดับที่ 10 จะได้ประมาณ 2.67% ของเงินรางวัลรวม
ราคา buy-in ของเกมในแต่ละระดับ มีให้เลือกระหว่าง $0.25, $1, $3 และ $10
