วิเคราะห์ 3 hand สำคัญของโปรเต้ พชร วงศ์วิชิต ในรายการ BIG 25 $1M GTD

 วิเคราะห์ 3 hand สำคัญของโปรเต้ พชร วงศ์วิชิต ในรายการ BIG 25 $1M GTD

จากที่ทุกคนได้ทราบกันไปแล้วว่า “โปรเต้” พชร วงศ์วิชิต โปรโป๊กเกอร์อันดับ 1 ของประเทศไทย สามารถคว้าอันดับ 7 จากรายการ BIG 25 $1GTD พร้อมเงินรางวัลกว่า $25,958 หรือกว่า 8 แสนบาทมาครองได้สำเร็จ จากข่าวนี้

https://thenewspoker.com/2021/05/11/พชร-วงศ์วิชิต-เต้-นักโป๊/

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกกันถึงเบื้องลึกเบื้องหลังแนวคิด วิธีการเล่น hand ที่สำคัญ จากบทสัมภาษณ์ของโปรเต้ ที่ได้คัดเลือก hand ที่สำคัญในการก้าวสู่อันดับ 7 รายการนี้ มาด้วยกัน 3 hand ว่าเขามีแนวคิดอย่างไร และเราสามารถเรียนรู้วิธีคิดจากเขาได้อย่างไรบ้าง

  1. A♠K♠ ตำแหน่ง BTN stack ประมาณ 21bb

“hand นี้ HJ shove all-in มาที่ประมาณ 13bb เรามี AKs ประมาณ 21bb ตอนแรกเต้ไม่แน่ใจว่าเราสมควร call รึเปล่าเพราะว่า ICM มันใหญ่มาก เพราะที่ 10 ได้ประมาณ $7,000 แล้วที่ 9 ได้ $14,000 แล้วตำแหน่งสูงกว่านั้นเงินที่ได้ มันเพิ่มขึ้นลดเหลือประมาณ $5,000 หมายความว่า bubble ใหญ่มาก และทุกคนอยากเข้า final table มันต่างกันมากทั้ง play jump และการเข้า final table หรือไม่ได้เข้า”

“แต่ถ้าเรา call แล้วเราแพ้ เราก็ยังพอเหลือชิพอยู่ แม้จะ short ก็ตาม มันก็ไม่ได้ย่ำแย่มาก แถมเรามี AKs ถ้าเขามี pair เราก็ flip จริงๆได้สูสีกับเขา และเราอาจจะ dominate เขาเพราะเขามี 13bb อาจจะอยู่ประมาณอันดับ 7 จาก 10 ตอนนี้ มี 3 คนชิพน้อยกว่าเขา ถ้าเขา all-in เขาอาจจะมี A5s หรือ ATs รวมถึง AJ AQ เพราะ equity เขาเยอะถ้าโดน call และเยอะเกินไปที่จะมาหมอบ”

“บาง hand เขาอาจจะ limp ได้ แต่เขารู้ตัวแน่ๆว่าถ้าเขาเปิด แล้วโดน raise เขา call ไม่ได้แน่ๆ ยกเว้น hand แค่ QQ ถึง AA ที่จะ call ได้ AK หรือ JJ call ไม่ได้ เพราะ ICM ดังนั้น ดีที่สุดคือการ shove all-in จะดีที่สุด ทางอื่น EV น้อยกว่าหรืออาจจะลบเลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าเปิดกับ hand อย่าง AJ AQ AK แล้ว call ไม่ได้คือแย่มากๆ”

“ในสถานการที่ ICM มีผลมาก และ stack ไม่ได้ต่างกันมาก คนที่ shove all-in ก่อนจะได้เปรียบเยอะ มีโอกาสที่จะ take down pot ตรงกลาง เพราะมี fold equity ที่คนอื่นจะ fold เยอะขึ้นมาก ต่อให้เปิดไพ่โชว์ก่อน all-in แล้วคนอื่นรู้ว่าต้อง flip ก็ไม่ค่อยมีใครอยากกล้า call แน่นอน ต่อให้คู่แข่งมี equity 60% ยัง call ไม่ได้เลย ยกเว้นเราเป็นตำแหน่งสุดท้าย”

“สถานการณ์นี้ต่อให้เราเป็น short stack เราก็ยังควรต้อง call แม้ ICM จะสูง เพราะเราต้องเสี่ยงเล่นเพื่อชนะทัวร์มากกว่าจะพอใจที่อันดับนี้”

======================

  1. K♦J♦ ตำแหน่ง BTN stack 9.5bb

“hand นี่ CO เป็นชิพลีดเดอร์ เขาเปิด เราอยู่ BTN แต่ เรามีแค่ประมาณ 10bb ถ้าเต้ shove all-in hand นี้ไปเลย เต้ไม่ชัวร์ว่า คนที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น SB BB หรือคนที่เปิด จะหมอบบ่อยขนาดไหน เพราะแต่ละคนมี stack ที่จะ call ได้ ต่อให้เขาแพ้ก็ไม่ได้เจ็บตัวมาก”

“เต้คิดว่าชิพลีดเดอร์น่าจะ call เกือบทุก A ทุก pair ทำให้เราไม่ชัวร์ว่าควร shove รึเปล่าเพราะเราอาจจะมี fold equity แค่ไม่เกิน 20% เลยคิดว่าเรามี KJs ถ้าเรา call ไปเรายังมี position และยังมีโอกาสที่จะหมอบได้ถ้า action หรือ board ไม่เข้าทางเรา แม้เต้จะไม่ได้มั่นใจ 100% ว่าเราควร call หรือ all-in หรือควรหมอบก็ตาม คงต้องไปวิ่งซิม ICM ดูอีกทีหนึ่ง” 

“แต่เรา call ไป BB ก็ over call ตาม flop 4Q9 เราไม่มี bakdoor flush แต่เราก็ยังมี 1 over card เรามี nut gutshot หรือต่อให้โดน hero call J เราก็อาจจะดีด้วย และเรา dominate ทุก straight draw อย่าง JT หรือ KT”

“ซึ่งทั้ง 2 check คนมา เต้ shove all-in เท่า pot จุดนี้เต้คิดว่าเราน่าจะมี fold equity 50% หรือเหนือกว่านิดนึง ถ้าโดน call equity เรายังมีเยอะ เผลอๆจะนำด้วย แต่จากการที่ CO ไม่ได้ c-bet ทำให้คิดว่า เขาไม่น่าจะมีโอกาส call ได้มากขนาดนั้น เพราะคงไม่ค่อยมี trap เท่าไหร่ ถ้ามีเขาควรจะ c-bet เพราะเราน่าจะ over fold บ่อยกว่า ส่วน BB ถ้าเขามี Q เราคงต้องยอม แต่ต่อให้เขามี 9 หรือ 4 ก็ call ยาก เพราะการที่ board มี Q9 มันน่าจะ connect กับ calling range ของเราที่น่าจะมี hand พวก broadway ได้เยอะ เขาเลยน่าจะต้องให้เครดิตเราพอสมควรว่าเรามีโอกาสติด board นี้บ่อย” 

“อาจจะดูว่าเราเล่นเสี่ยงหน่อย แต่เราก็จำเป็น อย่างน้อยเราก็ลดความเสี่ยงช่วง preflop แล้ว” 

===============================

  1. K♥Q♥ ตำแหน่ง UTG (เหลือ 7 คน) stack 22.3bb

“hand นี้ ถ้า stack เรา short สุด เราอาจจะอยาก all-in แต่เต้คิดว่า ด้วย stack เหลือขนาดประมาณ 20bb เปิด min raise จะดีที่สุด”

“flop มา 987 แบบนี้ไม่ค่อยดีกับเราเท่าไหร่ เพราะเราไม่น่าจะเปิดกับ hand พวก middle suited connector อย่าง 87s 89s หรือ 9Ts ในตำแหน่งนี้ เพราะเราไม่ใช่ชิพลีดเดอร์ และ 2 คนข้างซ้ายเรา รวมถึงคนทางขวาเราก็มี stack ใหญ่กว่าเรา เราจึงเปิดกับ hand พวกนั้นไม่ได้ หรือ hand อย่าง JTs เราก็ไม่น่าเล่น เพราะ ICM มันกดดันเราหนัก เราต้อง under bluff และ over fold มากกว่าเดิม board แบบนี้จึงไม่ดี เขาสามารถ donk bet มาได้ แล้วเราคงต้องหมอบ”

“แต่เขา check มา เรา check กลับ turn ตกมาเป็น Q เกือบจะดีที่สุดสำหรับเรา รองจาก Q หรือ K ที่เป็น rainbow จะดีที่สุด แต่นี่ก็ถือว่าค่อนข้างดี ถ้าเขาไม่มี 2 pair หรือ straight เราน่าจะนำ แต่เขา bet มาประมาณ 60% ซึ่งการ raise ณ จุดนี้ ไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะถ้าเขา raise all-in มา เราไม่น่าจะ call ได้ ดังนั้นเคลียร์ว่าต้อง call turn”

“river ตก J และมี complete flush ค่อนข้างมีปัญญหาเยอะ เพราะถ้าเขามี Q เขาน่าจะมีเป็น 2 pair หรือ straight ได้เลย ยกเว้น Q6 หรือ Q5s ที่เขา call preflop แต่ถ้ามีเขาก็ไม่น่าจะ bet ที่ turn เยอะ ซึ่ง river เขา bet ต่อมาที่ประมาณ 30% ซึ่งเต้ไม่ค่อยแน่ใจกับจุดนี้ เพราะเขา bet มาค่อนข้างถูก ซึ่งด้วยขนาดแบบนี้เขาไม่น่าจะมี flush เพราะถ้ามีควรจะต้อง bet เอา value มากกว่านี้ เพราะถ้าเรามี straight เราไม่น่าหมอบต่อให้เขามีแค่ small flush เขาก็น่าจะไม่กลัว higher flush แล้ว ดังนั้น เขาน่าจะมีอย่างมากแค่ straight หรือ 2 pair หรือกับบาง bluff แม้เต้คิดว่า ถ้าเขา bluff เขาน่าจะต้อง bet ใหญ่กว่านี้ ให้เรา call ไม่ได้ เพราะการที่เรา call ที่ turn มาได้ range เราน่าจะมี T ได้ มี flush draw ได้ ดังนั้น โอกาสที่เขา bluff river น่าจะน้อยลง เต้เลยคิดว่า การที่เรา call 30% ตรงนี้น่าจะค่อนข้างผิด เราควรจะหมอบ ถ้า hand นี้ไม่มี ICM การ call มันก็น่าจะดีที่สุดแค่ nutral EV เราไม่จำเป็นต้อง call บ่อยขนาดนั้น ดังนั้นยิ่งมี ICM เรายิ่งน่าจะต้อง over fold จุดนี้

“hand นี้ preflop, flop, turn เราน่าจะเล่นถูกแล้ว ยกเว้นที่ river ที่เราน่าจะ fold มากกว่า”